“ปกป้องประชา คัดกรองตรวจหาเชื้อโควิด 19 เชิงรุก ถึงเรือนจำ หลังพบผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด 19”

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มณฑลทหารบกที่ 35 โดยโรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุตรดิตถ์ และโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ นำกำลังพลพร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ ตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัส COVID-19 เชิงรุก Active case finding ด้วยรถชีวนิรภัย เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ภายในเรือนจำ และนำเจ้าหน้าที่คัดกรองหาเชื้อไวรัส COVID-19 ให้กับผู้ต้องขัง เบื้องต้นพบผู้ติดเชื้อ 3 ราย เพื่อป้องกันคลัสเตอร์ใหม่ภายในเรือนจำ ณ เรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์

ตามเจตนารมณ์ของผู้บัญชาการทหารบก ในการให้โรงพยาบาลกองทัพบกจัดหารถชีวนิรภัย กองทัพบกสนับสนุนสาธารณสุข และระดมสรรพกำลังในการตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 โดยใช้รถชีวนิรภัยกองทัพบก ซึ่งเป็นรถที่มีห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว ที่มีประสิทธิภาพเก็บสิ่งส่งตรวจได้ 200 ราย/ชั่วโมง โดยเก็บตัวอย่างสิ่งส่งตรวจจากโพรงจมูกด้านหลัง (nasopharyngeal swab) เพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์โดยใช้วิธีการตรวจแบบ Antigen Test Kit (ATK) เบื้องต้นพบ 3 ราย จึงมีการดำเนินการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัส COVID-19 (RT-PCR) ที่แผนกพยาธิวิทยา โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก เพื่อยืนยันผลการติดเชื้อ COVID-19 เพื่อเป็นการป้องกันคลัสเตอร์ในเรือนจำ ป้องกันลุกลาม และการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส COVID-19 ตลอดจนสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ภายในเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์

ในการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เชิงรุก ครั้งนี้ หากพบผู้ติดเชื้อเพียงเล็กน้อยก็จะสามารถทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นได้ เนื่องจากภายในเรือนจำเป็นพื้นที่แออัด ผู้ต้องขังอยู่รวมกัน จึงมีการแนะนำในการดำเนินการรักษาผู้ป่วย ยกระดับการป้องกันการติดเชื้อโควิด 19 กรณีหากพบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก แนะนำการแบ่งโซนผู้ป่วยในการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 คัดแยกผู้ป่วยตามลักษณะอาการ และเร่งการรักษา รวมไปถึงการปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ตามนโยบายของกองทัพบก มีการแนะนำการล้างมือทุกๆครั้งเมื่อมีโอกาสด้วยการล้างมือ 7 ขั้นตอน แนะนำการเว้นระยะห่างทางสังคม Social Distancing การเพิ่มมาตรการการป้องกันตามกระทรวงสาธารณะสุข ให้กับผู้ต้องขัง กำลังพล และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ภายในเรืองจำอีกด้วย

ปฏิบัติภารกิจภายใต้เจตนารมณ์ของผู้บัญชาการทหารบก “ปกป้องประชา” ในการดูแลประชาชนอย่างเต็มประสิทธิภาพ