“ปกป้องประชา คัดกรองตรวจหาเชื้อไวรัส COVID-19 เชิงรุก ด้วยวิธี RT-PCR ในเรือนจำอุตรดิตถ์ ป้องกัน”คลัสเตอร์ภายในเรือนจำ” ด้วยความห่วงใยจากกองทัพบก”

 
เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มณฑลทหารบกที่ 35 โดยโรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก ร่วมกับเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ นำกำลังพลพร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ ตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัส COVID-19 เชิงรุก Active case finding ให้กับผู้ต้องขังจำนวน 248 ราย แยกเป็นผู้ต้องขังจากเรือนจำหญิงทั้งหมด 200 ราย และผู้ต้องขังเสี่ยงสูง 48 ราย พร้อมทั้งมอบอุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัส COVID-19 อาทิ ชุด PPE, หน้ากากอนามัย N95 , หน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ให้กับเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ ณ เรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์
 
 
โดยมีการคัดกรองหาเชื้อไวรัส COVID-19 โดยการเก็บตัวอย่างจากโพรงจมูกด้านหลัง แบบเชิงรุกการค้นหา Active Case Finding เพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์โดยการตรวจหาสารพันธุกรรม (RT-PCR) ที่แผนกพยาธิวิทยา โรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก เพื่อการป้องกันคลัสเตอร์ในเรือนจำ ป้องกันลุกลาม และการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส COVID-19 ภายในเรือนจำ ตลอดจนสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ภายเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์
 
 
ความจำเป็นในการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ เนื่องจากหากมีผู้ติดเชื้อเพียงเล็กน้อยก็จะสามารถแพร่กระจายทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นได้ เนื่องจากภายในเรือนจำเป็นพื้นที่แออัด ผู้ต้องขังอยู่รวมกัน อาจเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อได้ง่าย หากสามารถตรวจพบผู้ติดเชื้อได้ในระยะแรก ก็จะสามารถจัดการแยกผู้ติดเชื้อเพื่อรักษา และสามารถยกระดับการป้องกันการติดเชื้อในพื้นที่เรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์, จัดตั้งโรงพยาบาลสนามได้อย่างทันท่วงที ตามนโยบายของกองทัพบก
 
 
อีกทั้งยังมีการวางแผนการคัดแยกผู้ป่วย การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม การวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 แนะนำการล้างมือทุกๆครั้งเมื่อมีโอกาสด้วยการล้างมือ 7 ขั้นตอน แนะนำการเว้นระยะห่างทางสังคม Social Distancing การเพิ่มมาตรการการป้องกันตามกระทรวงสาธารณสุข ให้กับผู้ต้องขัง และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ภายในเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์
กองทัพบก โดยโรงพยาบาลค่ายพิชัยดาบหัก มณฑลทหารบกที่ 35 พร้อมสนับสนุนเรือนจำจังหวัดอุตรดิตถ์ อย่างเต็มที่ และเต็มความสามารถ ปฏิบัติภารกิจภายใต้เจตนารมณ์ของผู้บัญชาการทหารบก “ปกป้องประชา” ในการดูแลประชาชนอย่างเต็มประสิทธิภาพ